รุ่นที่ 2 (ค.ศ. 1956 - 1957) ของ ลินคอล์น คอนติเนนทัล

ลินคอล์น คอนติเนนทัล รุ่นที่ 2

คอนติเนนทัลรุ่นที่ 2 ในการผลิตขายจะใช้ชื่อว่า คอนติเนนทัล มาร์ค ทู (อังกฤษ: Continental Mark II) ซึ่งคอนติเนนทัลมีรูปทรงที่เป็นเอกลักษณ์ และผู้สนใจและผู้ใช้รถ ต่างยกย่องว่ามีคุณภาพ (โดยภาพรวม) ที่สูงที่สุดในประวัติศาสตร์วงการรถยนต์ และมีการตกแต่งภายในอย่างหรูหราเต็มพิกัด ใช้เครื่องยนต์ 6000 ซีซี วี8

เมื่อคอนติเนนทัลรุ่นที่ 2 เป็นรถที่คุณภาพสูง แน่นอนว่า ราคารถต้องสูง โดยมีราคา 10,000 ดอลลาร์สหรัฐ (เงิน 10,000 ดอลลาร์ในปี 1956 เทียบเท่า 80,000 ดอลลาร์ หรือประมาณ 2.6 ล้านบาทในปัจจุบัน และรถยนต์ที่มีขายในประเทศไทยส่วนใหญ่จะมีราคาแพงกว่าราคาในต่างประเทศเฉลี่ยประมาณ 2-3 เท่า เพราะภาษีรถยนต์ประเทศไทยสูง) ซึ่งสูงเกือบเท่ารถยนต์ โรลส์-รอยซ์ เลยทีเดียว แต่ทว่า ด้วยราคาดังกล่าว เมื่อฟอร์ดมาทบทวนต้นทุนอีกครั้งในภายหลัง พบว่า 10,000 ดอลลาร์ ยังเป็นราคาที่ขาดทุนอยู่อีกหลายพันดอลลาร์

อย่างไรก็ตาม ฟอร์ดได้ตรึงราคาคอนติเนนทัลไว้ เพื่อให้เป็นสัญลักษณ์ของลินคอล์น เพื่อสร้างภาพลักษณ์ของลินคอล์นว่าเป็นรถที่มีคุณภาพเกินราคา (ในปัจจุบัน รถที่มีคุณภาพเทียบเท่าคอนติเนนทัลรุ่นที่ 2 มีราคาในต่างประเทศไม่ต่ำกว่า 4 ล้านบาท) และนอกจากนี้ บุคคลที่มีชื่อเสียงหลายท่าน ก็ได้เลือกซื้อคอนติเนนทัลรุ่นที่ 2 เป็นรถยนต์ส่วนบุคคล เช่น พระเจ้าชาห์ โมฮัมหมัด เรซา ปาห์ลาวี ประมุขแห่งอิหร่าน, เนลสัน รอคเคเฟลเลอร์ รองประธานาธิบดีคนที่ 41 แห่งสหรัฐอเมริกา, เฮนรี คิสซิงเจอร์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศแห่งสหรัฐอเมริกา คนที่ 56 ที่ปรึกษาความมั่นคงคนที่ 8 แห่งสหรัฐอเมริกา เจ้าของรางวัลโนเบลสาขาสันติภาพ ประจำปี ค.ศ. 1973, แฟรงก์ ซินาตรา และ เอลวิส เพรสลีย์

ตลอดช่วง 2 ปีที่ผลิต ฟอร์ดผลิตคอนติเนนทัลรุ่นที่ 2 จำนวนประมาณ 3,000 คัน ปัจจุบัน ครึ่งหนึ่งของจำนวนนี้ยังต้องการการซ่อมแซม และโชคดีที่อะไหล่ส่วนใหญ่ยังเป็นอะไหลที่ยังใช้อยู่จนถึงปัจจุบัน ทำให้การซ่อมแซมรถคอนติเนนทัลมาร์คทู สามารถทำได้ง่ายเหมือนซ่อมรถยุคใหม่ๆ และราคาของมันในตลาดรถปัจจุบัน อยู่ระหว่าง 8,000 - 70,000 ดอลลาร์สหรัฐ ขึ้นอยู่กับสภาพของรถ